Amazfit เปิดตัวสมาร์ทวอทช์ GTR 2e และ GTS 2e ดีไซน์ทันสมัย พร้อมฟีเจอร์ดูแลสุขภาพสุดล้ำ

สไตล์และสุขภาพมาบรรจบกันในสมาร์ทวอทช์ออลอินวันรุ่นใหม่

Amazfit แบรนด์ชั้นนำระดับโลกในตลาดอุปกรณ์สวมใส่ ประกาศเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ Amazfit GTR 2e และ GTS 2e ในมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ CES ซึ่งจัดงานออนไลน์เต็มรูปแบบในปีนี้ โดยสมาร์ทวอทช์สองรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Amazfit GTS 2 และ GTR 2 มาพร้อมฟีเจอร์ติดตามสุขภาพสุดล้ำและดีไซน์บางเฉียบทันสมัย ผสานสไตล์และสุขภาพอย่างลงตัวเพื่อผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ไม่หยุดนิ่ง พร้อมแบตเตอรี่อึดทนนานเป็นพิเศษและความหรูหราอันเหนือชั้น

รับชมผลิตภัณฑ์ Amazfit ในมหกรรม CES ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 11-14 มกราคม ได้ที่ amazfit.com

ดีไซน์ไร้ขอบ [1]

Amazfit GTR 2e และ GTS 2e มาพร้อมหน้าปัดนาฬิกาที่รังสรรค์อย่างประณีตด้วยกระจกโค้งดีไซน์ไร้ขอบ ก่อเกิดรูปลักษณ์อันโดดเด่นดึงดูดทุกสายตา จอเคลือบสุญญากาศกันรอยขีดข่วน ตัวเรือนทำจากอลูมินัมอัลลอยโค้งมนได้รูป สวมใส่สบายและน้ำหนักเบา

หน้าจอหมุนได้ สีสันสว่างสดใส

GTS 2eมาพร้อมจอ HD AMOLED ขนาด 1.65 นิ้ว แบบหมุนได้ แสดงผลชัดเจนเทียบเท่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ โดยความละเอียด 341 ppi ทำให้แสดงผลได้อย่างชัดเจนสมจริง สีสันสดใสอ่านง่าย

GTR 2e มาพร้อมจอ HD AMOLED ขนาด 1.39 นิ้ว ความละเอียด 326 ppi แสดงผลชัดเจนสว่างสดใส

ปกป้องสุขภาพรอบด้าน [2]

Amazfit GTR 2e และ GTS 2e มาพร้อมเซนเซอร์ BioTrackerTM 2 PPG รุ่นใหม่ล่าสุดความแม่นยำสูง ช่วยปกป้องสุขภาพอย่างครอบคลุมรอบด้าน โดยสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง และแจ้งเตือนหากหัวใจมีอัตราการเต้นผิดปกติ

วัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด

เมื่อออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่งมาราธอนหรือออกกำลังกายกลางแจ้งหนัก ๆ ผู้สวมใส่สามารถวัดความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดทันทีที่เริ่มรู้สึกอ่อนแรง

ระบบประเมินสุขภาพ PAI(TM)

ระบบประเมินสุขภาพ PAI(TM) (Personal Activity Intelligence) ใช้อัลกอริทึมในการเปลี่ยนข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ระยะเวลาทำกิจกรรม และข้อมูลสุขภาพอื่น ๆ เป็นคะแนน PAI ช่วยให้ผู้สวมใส่เข้าใจสุขภาวะทางกายของตนเองได้อย่างง่ายดาย

ระบบตรวจสอบคุณภาพการนอน เพื่อคุณภาพการนอนสูงสุด

Amazfit GTR 2e และ GTS 2e สามารถตรวจสอบคุณภาพการนอนในเชิงลึก ด้วยการตรวจจับการนอนแต่ละระยะอย่างแม่นยำ ติดตามการหายใจระหว่างนอนหลับ วิเคราะห์คุณภาพการนอน พร้อมแนะนำวิธีการปรับปรุงการนอน นอกจากนั้นยังสามารถตรวจจับการนอนกลางวันที่นานกว่า 20 นาที [3] เพื่อบันทึกข้อมูลการนอนอย่างครบถ้วนที่สุด

ระบบตรวจสอบความเครียด

สมาร์ทวอทช์ทั้งสองรุ่นสามารถตรวจสอบระดับความเครียดของผู้สวมใส่ ตั้งแต่ระดับผ่อนคลาย ปกติ ปานกลาง หรือสูง ตลอดทั้งวัน

โหมดกีฬา 90 โหมด

สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่มาพร้อมโหมดกีฬา 90 โหมด ครอบคลุมแทบทุกความต้องการของคนรักกีฬา โดยฟังก์ชันจดจำชนิดกีฬาอัจฉริยะ [4] จะเปิดการใช้งานโหมดกีฬาโดยอัตโนมัติเมื่อผู้สวมใส่เริ่มขยับร่างกาย

ระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ [5]

สั่งการสมาร์ทวอทช์ของคุณด้วยเสียงโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ด้วยฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียงออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโหมดกีฬาหรือเปิดระบบวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

แบตเตอรี่อึดทนนานมากขึ้น

ระบบจัดการแบตเตอรี่ความจุสูงรับประกันว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานสุด 24 วันสำหรับรุ่น GTR 2e และ 14 วันสำหรับรุ่น GTS 2e เมื่อใช้งานทั่วไป [6] สมาร์ทวอทช์ทั้งสองรุ่นจึงพร้อมติดตามความก้าวหน้าของคุณเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องพกที่ชาร์จติดตัวตลอดเวลา

สามารถใช้ร่วมกับแอป Zepp เพื่อการจัดการข้อมูลสุขภาพอย่างเต็มประสิทธิภาพ

สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่สามารถเชื่อมกับแอป Zepp เวอร์ชันอัปเกรด เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ และจัดการข้อมูลสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด ช่วยให้ผู้สวมใส่ตรวจสอบสภาพร่างกายได้ทุกที่ทุกเวลา

ราคาและการวางจำหน่าย

ในอเมริกาเหนือ Amazfit GTR 2e และ Amazfit GTS 2e วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Amazfit และ Amazon ในราคา 139.99 ดอลลาร์สหรัฐทั้งสองรุ่น

ในสหราชอาณาจักร Amazfit GTR 2e และ Amazfit GTS 2e วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ผ่านทาง Argos ในราคา 119 ปอนด์ และจะวางจำหน่ายผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Amazfit และ Amazon โดยจะมีการยืนยันรายละเอียดในภายหลัง

อ้างอิง

[1] Amazfit GTR 2e และ GTS 2e ใช้ดีไซน์ใหม่ โดยหน้าปัดไม่มีขอบชัดเจน ให้ลุคแบบ “ไร้ขอบ”

[2] ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่อุปกรณ์ทางการแพทย์ ข้อมูลและการวัดผลทั้งหมดใช้ในการอ้างอิงเท่านั้น และไม่ควรใช้ในการวินิจฉัยหรือการติดตามอาการทางการแพทย์ นอกจากนี้ ความแม่นยำของข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนหากเซ็นเซอร์สัมผัสกับผิวที่มีรอยสัก สีเข้ม ฝ้า ขน เหงื่อจากการเล่นกีฬา การเคลื่อนไหว ฯลฯ

[3] เมื่อระบบตรวจพบว่าผู้สวมใส่นอนหลับระหว่าง 24.00-06.00 น. เวลาหลับระหว่าง 18.00 น.ของวันก่อนจนถึง 11.00 น.ของวันนี้ จะถูกบันทึกว่าเป็นเวลาหลับตอนกลางคืน ส่วนเวลานอนระหว่าง 11.00-18.00 น.ที่นานกว่า 20 นาที จะถูกบันทึกเป็นเวลางีบหลับ และเวลานอนที่น้อยกว่า 20 นาทีจะไม่ถูกบันทึก

[4] จดจำโหมดกีฬาต่าง ๆ เช่น วิ่งกลางแจ้ง วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า เดิน ปั่นจักรยานกลางแจ้ง ว่ายน้ำในสระ และใช้เครื่องเดินวงรี

[5] ฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียงออฟไลน์รองรับเฉพาะคำสั่งภาษาอังกฤษ

[6] อายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า เงื่อนไขการใช้งาน และปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้นผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากการทดลองในห้องปฏิบัติการ โดย Amazfit GTR 2e สามารถอยู่ได้นานสุด 24 วันเมื่อใช้งานทั่วไป ได้แก่ เปิดโหมดวัดอัตราการเต้นของหัวใจและโหมดติดตามการนอนหลับ ทุกวันมีการเปิดหน้าจอเพื่อแสดงข้อความ 150 ข้อความ ยกข้อมือเพื่อดูเวลา 30 ครั้ง ส่วนการใช้งานอื่น ๆ ไม่เกิน 5 นาทีในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ ผู้สวมใส่ยังออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งวิ่ง 30 นาที และเปิดใช้งาน GPS

Amazfit GTS 2e สามารถอยู่ได้นานสุด 14 วันเมื่อใช้งานทั่วไป ได้แก่ เปิดโหมดวัดอัตราการเต้นของหัวใจและโหมดติดตามการนอนหลับ ทุกวันมีการเปิดหน้าจอเพื่อแสดงข้อความ 150 ข้อความ ยกข้อมือเพื่อดูเวลา 30 ครั้ง ส่วนการใช้งานอื่น ๆ ไม่เกิน 5 นาทีในแต่ละครั้ง นอกจากนี้ ผู้สวมใส่ยังออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแต่ละครั้งวิ่ง 30 นาที และเปิดใช้งาน GPS

รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1417545/Amazfit_Smartwatches.jpg
คำบรรยายภาพ: สมาร์ทวอทช์ออลอินวัน Amazfit GTR 2e และ GTS 2e

ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์