Kaspersky เผยครอบครัวในเอเชียแปซิฟิก 49% ซื้อ-เช่าดีไวซ์เพิ่มให้ลูกเรียนรู้ออนไลน์

การสำรวจล่าสุดของแคสเปอร์สกี้ ดำเนินการโดยบริษัทวิจัย Toluna ระหว่างเดือนเมษายน – พฤษภาคม 2021 ผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประกอบด้วยผู้ปกครองและครู 517 คน และเด็กที่กำลังศึกษาออนไลน์อยู่ 64 คน ระบุความท้าทายทางเทคนิคที่ครอบครัวต้องเผชิญระหว่างการเรียนรู้ทางไกลที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้ พบว่าครอบครัวในเอเชียแปซิฟิกจำนวนหนึ่งในสองหรือ 49% ที่มีลูกสองคนขึ้นไปต้องซื้อหรือเช่าดีไวซ์เพิ่มเติม เพื่อให้บุตรหลานทุกคนมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนออนไลน์ อัตรานี้สูงเป็นอันดับสองของโลก รองจากแอฟริกา 62% ละตินอเมริกาตามมาที่ 48% ในขณะที่ตะวันออกกลางมีตัวเลขต่ำสุดที่ 42%

ตัวเลขที่น่าสนใจคือ เด็กในเอเชียแปซิฟิกจำนวนมากกว่าครึ่ง (59%) เรียนออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟน

เด็กจำนวนสามในห้าจากภูมิภาค (60%) ประสบปัญหาทางเทคนิคในการเชื่อมต่อคลาสเรียนออนไลน์เป็นประจำหรือเป็นระยะๆ ส่วนใหญ่ (79%) ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ปกครองเพื่อให้ดีไวซ์ทำงานได้ อย่างไรก็ตาม นักเรียน 16% สามารถแก้ไขปัญหาทางเทคนิคด้วยตนเอง

นายคริส คอนเนลล์ กรรมการผู้จัดการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “การเรียนรู้เสมือนจริงยังคงเป็นบรรทัดฐานที่จำเป็นทั่วทั้งภูมิภาคนี้ และเราคาดว่าจะดำเนินต่อไปในอีกหลายเดือน การสำรวจของแคสเปอร์สกี้แสดงให้เห็นว่า การบังคับให้เปลี่ยนรูปแบบสู่การเรียนรู้ทางไกล ทำให้เกิดปัญหาในแง่ของการเรียนรู้ตามหลักสูตร รวมถึงปัญหาทางเทคนิคอีกด้วย หลายครอบครัวต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม ยืมจากเพื่อนหรือโรงเรียน อีกทั้งเรื่องการติดตั้งโปรแกรมและแก้ไขปัญหาอินเทอร์เน็ตเป็นประจำ”

“ถึงแม้ว่าการเรียนรู้ออนไลน์จะยากสำหรับผู้ปกครองและเด็กในช่วงนี้ แต่ประสบการณ์ที่ได้รับจากการลงลึกไปในโลกออนไลน์จะช่วยให้เรามองเห็นรูปแบบการเรียนรู้ออฟไลน์ดั้งเดิมในรูปแบบใหม่ และใช้เครื่องมือดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างปลอดภัย” คอนเนลล์กล่าวเสริม

นักเรียนจำนวนมากต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติมบนดีไวซ์เพื่อให้ทันกับบทเรียน ตัวอย่างเช่น นักเรียน 38% เริ่มใช้บริการการประชุมทางวิดีโอใหม่ๆ และ 43% ดาวน์โหลดโปรแกรมจำลองเชิงโต้ตอบและโปรแกรมการศึกษาอื่นๆ ผู้ปกครอง 23% พบว่าจำเป็นต้องเริ่มใช้โซลูชันการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์

นายเซอร์เจย์ มาร์ดานอฟ ผู้อำนวยการฝ่ายมหาวิทยาลัยสัมพันธ์ บริษัท Mail.ru Group กล่าวว่า “การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้เกิดการปรับย้ายไปสู่การเรียนรู้ทางไกล ครูและนักเรียนจำนวนมากได้รับประสบการณ์การทำงานและการเรียนออนไลน์เป็นครั้งแรก เรามุ่งเน้นที่การช่วยเหลือโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในการจัดระเบียบและรับมือกับการเรียนรู้ทางไกล และเราจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพราะความต้องการเครื่องมือดิจิทัลนั้นเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่เพียงแต่สำหรับแพลตฟอร์มการศึกษาเท่านั้น ยังรวมถึงโซเชียลมีเดียอีกด้วย การเรียนรู้ทางไกลขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่พร้อมใช้งานทุกประเภทเพื่อสื่อสารในชุมชนส่วนตัวหรือสาธารณะ และห้องสนทนา (chat room) สำหรับคลาสเรียน การบรรยายแบบสด (live stream) การโฮสต์บทเรียนทางวิดีโอทางไกลผ่านการโทรแบบกลุ่ม และการอัปโหลดสื่อการเรียนรู้”

เพื่อให้บุตรหลานปลอดภัยในโลกออนไลน์ ทั้งตอนที่กำลังเล่น เรียน หรือพูดคุยกับเพื่อนๆ แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำโซลูชัน Kaspersky Safe Kids ที่ช่วยให้ผู้ปกครองทราบว่าบุตรหลานของตนใช้เวลาออนไลน์นานแค่ไหน และยังปกป้องจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมอีกด้วย นอกจากนี้ ผู้ปกครองสามารถดูตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของบุตรหลานได้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากหากเด็กกลับมาจากโรงเรียนเพียงลำพัง

ที่มา: พิตอน คอมมิวนิเคชั่น