ดีอีเอส เปิดผลมอนิเตอร์ข่าวปลอมรอบสัปดาห์ คนสนใจข่าวไปรษณีย์บังคับรับพัสดุมากสุด

“นพวรรณ” โฆษกดีอีเอสฝ่ายการเมือง เผยผลมอนิเตอร์ข่าวปลอมในรอบสัปดาห์ ข่าวปลอมเรื่องพนักงานไปรษณีย์ไทยรับพัสดุได้รับความสนใจมากสุด ด้านภาพการแพร่กระจายข่าวปลอมลดลงต่อเนื่อง แต่พบข่าวปลอมเกี่ยวกับโควิดเพิ่มขึ้น

นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง (ดีอีเอส) กล่าวว่า สรุปผลการมอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมประจำสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 10-16 ก.ย. 64 โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม มีข้อความที่เข้ามาทั้งสิ้น 11,682,764 ข้อความ โดยจากการคัดกรองมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) จำนวน 177 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ 99 เรื่อง ในจำนวนนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด 62 เรื่อง

ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า เห็นแนวโน้มการแพร่กระจายข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนลดลงต่อเนื่อง ทั้งจำนวนข้อความที่ต้องคัดกรองและจำนวนเรื่องที่เข้าเกณฑ์ตรวจสอบ ขณะเดียวกัน พบว่าข่าวปลอม/ข่าวบิดเบือนเกี่ยวกับโควิดเริ่มกลับมาครองพื้นที่ข่าวปลอม โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากข้อมูลเชิงลึก ประชาชนเริ่มให้ความสนใจข่าวเฟคนิวส์เกี่ยวกับโควิดลดลง

โดยพบว่า ข่าวปลอมที่มีคนสนใจสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ อันดับ 1 เรื่องพนักงานไปรษณีย์ จัดส่งพัสดุที่ไม่ระบุชื่อผู้ส่งผู้รับ พร้อมทั้งบังคับรับพัสดุ อันดับ 2 เรื่องถ่ายภาพในสถานีรถไฟหัวลำโพง ต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น อันดับที่ 3 เรื่องตำรวจบุกค้นห้องชายวัย 20 ปี โดยไม่ได้แสดงหมายค้น อ้างบ้านอยู่ในระยะวิถีที่ยิงโดนตำรวจ

ขณะที่ จากการประสานงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข่าวที่ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 50 เรื่อง ส่วนใหญ่เป็นข่าวเกี่ยวกับโควิด และมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ได้รับผลกระทบ อีกทั้งสัปดาห์นี้ยังมีการเผยแพร่เกี่ยวกับข่าวบิดเบือนในหมวดหมู่ข่าวภัยพิบัติทั้งพายุโกเซิน และการเตือนน้ำท่วม

“อยากขอความร่วมมือจากประชาชนอย่างต่อเนื่องในการแก้ปัญหาข่าวปลอม เมื่อได้รับข่าวสารข้อมูลผ่านโซเชียล ควรตรวจสอบให้รอบด้าน เลือกเชื่อ เลือกแชร์ และสามารถติดตามและแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ผ่านช่องทางต่างๆ ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ดังนี้ ไลน์ @antifakenewscenter เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com/ ทวิตเตอร์ https://twitter.com/AFNCThailand และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87” นางสาวนพวรรณกล่าว

ที่มา: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม