ส่องความแตกต่างการใช้ RISE with SAP ใน SAP S/4HANA แบบ Public และ Private edition

บริษัท NDBS (Thailand) Ltd. ภายใต้กลุ่ม บริษัท NTT DATA ผู้ให้บริการระบบ SAP และ Data Center ระดับโลก และเป็นผู้นำทางด้าน Digital Transformation และเป็นสมาชิก SAP Global Partner ที่พร้อมคำปรึกษา และบริการด้านการออกแบบ พัฒนา ติดตั้งโซลูชัน SAP Solution และ IT Solution อื่น ๆ ให้กับลูกค้าในประเทศไทย เพื่อพัฒนาระบบบริหารการจัดการในองค์กรในทุกกลุ่มประเภทธุรกิจ จะมาแชร์ความแตกต่างในการใช้ SAP S/4HANA Cloud บน Private และ Public ให้ทุกท่านได้รับทราบเพื่อเป็นไอเดียในการเลือก Implement Software ที่ถูกต้องกันค่ะ 

SAP S/4HANA Private Cloud 

  • การใช้ SAP S/4HANA Cloud ในแบบ Private ผู้ใช้จะสามารถใช้บริการต่าง ๆ โดยได้รับการดูแลบนเครือข่ายส่วนตัวโดยไฟร์วอลล์ โดยที่สามารถสร้างคลาวด์ส่วนตัวภายในศูนย์ข้อมูล หรือใช้บริการจ่ายตามการใช้งานแบบ Iaas จาก AWS, Azure, GCP หรือ Alibaba Cloud ได้เช่นกัน เพื่อทำให้ระบบคลาวด์มีความปลอดภัย ด้วยมาตรการการควบคุมสูงสุด เนื่องจาก SAP S/4HANA private cloud edition จะเป็นโซลูชันหลักที่รวมอยู่ในบริการของ Rise with SAP อีกทั้งช่วยให้ผู้ใช้สามารถย้าย SAP ERP ที่มีอยู่ย้ายไปยังระบบคลาวด์ โดยไม่ต้องการออกแบบกระบวนการใหม่ทั้งหมด รวมถึงยังสามารถใช้บริการของพันธมิตรของ SAP ที่มีความสามารถในการขยาย และปรับปรุงกระบวนการธุรกิจ (Business Process Improvement : BPI) ด้วย SAP Best Practice Explorer และ Digital Discovery Assessment, SAP Process Insights Discovery Report, Signavio Process Manager รวมไปถึงสามารถสร้างฮับการทำงานร่วมกันได้ตามต้องการด้วย เครื่องมือ และบริการ อาทิ ออกแบบ User Interface (UI) ด้วย SAP Learning hub และ SAP Cloud ALM รวมไปถึงจัดการ Network ต่าง ๆ ด้วย Ariba Network, Asset Intelligence Network, Logistics Business Network ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่ง (รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง) และแก้ไขซอร์สโค้ด SAP และควบคุมได้อย่างเต็มที่ด้วยการเข้าถึงแบ็กเอนด์ของระบบผ่าน SAP GUI ทำให้สามารถเข้าถึงเฟรมเวิร์กของการขยายในองค์กรได้อย่างเต็มที่ โดยรองรับส่วนขยายในแอป และส่วนขยายอื่น ๆ นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพ และการแก้ไขโค้ด ผู้ใช้งานยังสามารถปรับแต่ง (IMG) ค่าต่าง ๆ ได้ สำหรับในส่วนของบริการโครงสร้างพื้นฐาน S/4HANA จะถูกปรับใช้บนผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่ผู้ใช้บริการเลือก สำหรับ SAP Best Practices Explorer ลูกค้าสามารถเลือกเวลาที่จะติดตั้งการปรับปรุงล่าสุดโดยจะต้องอยู่ภายในการบำรุงรักษาหลัก (5 ปี) โดยจะเป็นไปตามรุ่นพื้นฐานประจำปีของ SAP S/4HANA On Premise อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องติดตั้งการอัปเกรดอย่างน้อย 1 ครั้งทุก ๆ 5 ปี เพื่อให้อยู่ในแผนการบำรุงรักษา โดยฟีเจอร์ที่ไม่รบกวนการทำงานใหม่ จนกว่าจะมีการเปิดตัวรุ่นพื้นฐานในครั้งถัดไป หลังจากรีลีสใหม่ เวอร์ชันรีลีสก่อนหน้าจะได้รับ Support Pack Stacks (SPS) โดยมีเพียงการแก้ไขเท่านั้น (ไม่มีฟังก์ชันใหม่) จนกว่าจะสิ้นสุดการบำรุงรักษาหลัก ขณะที่ในส่วนของเครื่องมือในการกำหนดค่า และจัดการการปรับใช้ S/4HANA นั้นจะมี SAP Solution Builder ใช้สำหรับปรับใช้ SAP Best Practices ในคลาวด์ส่วนตัว ซึ่งเป็นโฟลว์กระบวนการที่กำหนดไว้ล่วงหน้าสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ อาทิ Signavio Process Manager และ SAP Process Collaboration Hub, SAP Solution Manager ขณะที่ในส่วนของ SAP PO (Process Orchestration) การรวม SAP Process Orchestration ถูกกำหนดด้วย Advanced Adapter Engine Extended (AEX) ใน SAP NetWeaver AEX จัดเตรียมความสามารถในการเชื่อมต่อของ Advanced Adapter Engine (AAE) นอกเหนือจากเครื่องมือการออกแบบและการกำหนดค่า (ES Repository และ Integration Directory) เพื่อตั้งค่า สำหรับในส่วนของการย้ายข้อมูลทั้งหมดจากระบบเดิมไปยังระบบ SAP S/4HANA สามารถใช้เครื่องมือ SUM ใช้เพื่อย้าย SAP ERP ไปยัง S/4HANA ได้ 2 วิธี ได้แก่ ถ่ายโอนข้อมูลโดยใช้ไฟล์เทมเพลต (Local SAP S/4HANA Database Schema connection) และ โอนย้ายข้อมูลโดยตรงจากระบบ SAP โดยถ่ายโอนข้อมูลจากระบบต้นทาง SAP ERP ไปยังระบบ SAP S/4HANA เป้าหมาย เข้าถึงระบบ SAP (ดั้งเดิม) ต้นทางผ่านการเชื่อมต่อ RFC ขณะที่ ในส่วนของ Available system landscapes for S/4HANA Deployment สามารถปรับใช้ระบบทดลองโดยใช้ CAL ด้วย EML (Enterprise management layer) และ SAP S/4HANA Fully Activated Appliance

หมายเหตุ : SAP S/4HANA Cloud, Extended Edition ยังรองรับความสามารถเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการฟังก์ชันเฉพาะได้

SAP S/4HANA Public Cloud 

ในขณะที่การใช้ SAP S/4HANA Cloud แบบ Public ผู้ใช้งานสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้โดยลูกค้าไม่ต้องติดตั้ง Hardware และ Software หรือไม่ต้องกังวลกับการดูแลระบบเอง ซึ่งช่วยให้สามารถส่งมอบบริการไปยังลูกค้าผ่านเครือข่ายคลาวด์สาธารณะต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม และช่วยให้ผู้ใช้บริการรองรับระบบ ERP ใหม่ ๆ ได้ โดยผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงโซลูชัน SAP SaaS ต่าง ๆ ของ SAP อาทิ โซลูชันทางด้าน HR อย่าง SAP SuccessFactors, โซลูชัน Cloud-based ที่จะช่วยองค์กรทั้งจัดหา และจัดการการทำงานร่วมกับบุคลากรภายนอก อย่าง SAP Fieldglass, บริการการจัดการค่าใช้จ่ายของพนักงานในองค์กร อย่าง SAP Concur และ โซลูชันด้านการจัดซื้อ การจัดการกระบวนการ และประสิทธิภาพของซัปพลายเออร์ อย่าง SAP Ariba ได้ อีกทั้งช่วยกระบวนการธุรกิจ (Business Process Improvement : BPI) ด้วย SAP Best Practice Explorer และ Digital Discovery Assessment ด้วย เครื่องมือ และบริการจัดการ Network อย่าง Ariba Network, Asset Intelligence Network สำหรับการปรับแต่งค่าต่าง ๆ ใน SAP S/4HANA Cloud แบบ Public นี้ การปรับแต่งจะทำผ่านแอพ SAP Fiori ที่ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการปรับแต่ง เช่น Custom Fields and Logic, Custom Business Objects แต่ไม่สามารถเข้าถึง GUI แบ็กเอนด์, IMG และไม่สามารถแก้ไขซอร์สโค้ด SAP ได้ สำหรับการปรับแต่งที่ซับซ้อนซึ่งไม่สามารถทำได้ผ่านแอป Fiori ที่มีอยู่ ชุดส่วนขยาย SAP Business Technology Platform จะพร้อมใช้งานและผสานรวมกับ SAP S/4HANA Cloud ได้อย่างง่ายดาย สำหรับในส่วนของบริการโครงสร้างพื้นฐาน SAP เป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานเริ่มต้นสำหรับโซลูชัน SaaS : SAP S/4HANA Cloud ด้านการปรับปรุง SAP Best Practices จะถูกส่งไปยังลูกค้าโดยอัตโนมัติ โดย SAP จะติดตั้งการปรับปรุงขอบเขตที่มีอยู่ของลูกค้าโดยอัตโนมัติ SAP ไม่ได้ติดตั้งการพัฒนาที่สำคัญที่ไม่เกี่ยวข้องกับขอบเขตที่มีอยู่ของลูกค้า ตัวอย่างเช่น หากมีการนำกระบวนการทางธุรกิจใหม่ออก ลูกค้าสามารถเลือกว่าจะเปิดใช้งานกระบวนการในระบบของตน หรือไม่ สำหรับเครื่องมือในการจัดการกระบวนการทางธุรกิจ ผู้ใช้งานสามารถใช้ SAP Central Business Configuration จัดเตรียมระบบ และการกำหนดค่า RISE ได้ด้วย SAP S/4HANA Cloud ขณะที่ในส่วนของ SAP PO (Process Orchestration) ยังไม่พร้อมใช้งานเนื่องจากมีการเข้าถึง AEX ผ่าน SAP GUI ด้วยคลาวด์สาธารณะได้ สำหรับในส่วนของการย้ายข้อมูลเดิมไปยัง S/4HANA Cloud Private ได้โดยถ่ายโอนข้อมูลโดยใช้ไฟล์เทมเพลต (Local SAP S/4HANA Database Schema connection) และถ่ายโอนข้อมูลโดยใช้ฐานข้อมูลการจัดเตรียม HANA แยกต่างหาก โดยเปิดใช้งานรายการขอบเขต Data Migration ไปยัง SAP S/4HANA จาก Staging (2Q2) และตั้งค่าการผสานรวมระหว่าง SAP S/4HANA และฐานข้อมูลการจัดเตรียม SAP HANA Express Edition ซึ่งมีพื้นที่ว่าง RAM สูงสุด 32 GB ขณะที่ ในส่วนของ Available system landscapes for S/4HANA Deployment สามารถใช้ 1.SAP Cloud Identity Services : เพื่อทำงานบน BTP และการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลประจำตัว (Identity authentication) และการจัดสรรข้อมูลประจำตัว(Identity Provisioning) 2.SAP Central Business Configuration: เพื่อแยกผู้เช่าที่ทำงานบน BTP และรองรับด้วยระบบ Starter, QA และ PROD 3.Starter system : โดยกำหนดค่ากระบวนการทางธุรกิจ และข้อมูลหลักไว้ล่วงหน้า สำหรับการนำเสนอเวิร์กช็อป “Fit-to-Standard” ให้กับลูกค้า 4.Quality : จัดเตรียม และกำหนดค่าผ่าน CBC (Central business configuration) ตามข้อมูล และข้อกำหนดที่รวบรวมระหว่างการประชุมเชิงปฏิบัติการ Fit-to-Standard และ 5.Production : ซิงค์กับระบบคุณภาพผ่านการขนส่งตั้งค่าคอนฟิกใน CBC

ขอบคุณเนื้อบางส่วนจาก : Rajarajeswari Kaliyaperuumal / blogs.sap.com / https://blogs.sap.com/2022/04/04/difference-between-sap-s-4hana-public-vs-private-edition-rise-with-sap/?fbclid=IwAR3kxywu9dN0LzzynT6d8j5WJ7sJGuf7QA0OgENNaRpGZEsa1To_v-cfFr8

ทั้งนี้ NDBS Thailand ในฐานะผู้เชียวชาญในการให้บริการทางด้านโซลูชั่นระดับโลก และให้คำปรึกษา พร้อมช่วยสนับสนุนธุรกิจองค์กรที่สนใจในโซลูชั่นทั้งหมดให้สามารถนำ RISE with SAP ไปใช้งานได้ง่ายดายขึ้น ด้วยทีมงานที่มีทั้งประสบการณ์ทางธุรกิจ และความรู้เชิงเทคนิคในการให้คำปรึกษา และการให้บริการครบวงจรตั้งแต่การเริ่มต้นขึ้นระบบไปจนถึงการดูแลรักษาต่อเนื่องในระยะยาว

ที่มา: เอ็นทีที เดต้า บิสซิเนส โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย)