COM7 เผย Q2/65 กวาดรายได้ 14,445 ล้านบาท โตเกือบ 25% แย้มครึ่งปีหลังโตต่อ รับศก.ฟื้น-สินค้าใหม่หนุน ปักธงบุกตลาดคอมเมอร์เชียล

COM7 ประเมินทิศทางครึ่งปีหลัง ธุรกิจไอทีและเทคโนโลยียังเติบโตได้อีก รับกิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง เข้าสู่ไฮซีซั่นสินค้าใหม่เตรียมเปิดตัว โดยจะเริ่มเห็นภาพการต่อยอดพันธมิตร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคอนซูเมอร์ และคอมเมอร์เชียลมากขึ้น ขณะที่ ช่องทางการขายปูพรมสาขาทะลุ 1 พันแห่ง ส่วนแพลตฟอร์มออนไลน์ยังเติบโตแรง ด้วยบริการที่ครบวงจรกว่าเดิม ชูกลยุทธ์บุก BaNANA และ Studio7 ตอบโจทย์การมี Apple Ecosystem ที่แข็งแกร่งที่สุด วางเป้าปี 65 รายได้โต 20% มั่นใจเป็นไปตามที่วางไว้ แย้มอานิสงส์ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล มองโอกาสอีกเพียบ

นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (COM7) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 14,445.4 ล้านบาท เติบโต 24.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 11,562.4 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตจากรายได้ในธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น สอดรับกับการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรค COVID-19 รวมทั้ง การบริหารจัดการและสำรองผลิตภัณฑ์ให้เพียงพอต่ออุปสงค์ของผู้บริโภค ประกอบกับให้การสนับสนุนบริการด้านสินเชื่อสำหรับผ่อนชำระ และการขายผลิตภัณฑ์เสริมควบคู่ไปกับการขายผลิตภัณฑ์หลัก ส่งผลให้ปริมาณผลิตภัณฑ์ขายเพิ่มขึ้น อาทิ iPhone iPad Smartphone และ Apple Watch เป็นต้น

ทางด้านช่องทางการจำหน่ายที่เติบโต จากการมุ่งเน้นขยายสาขาใหม่ ผ่านทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างรายได้ต่อสาขาที่สูงขึ้น รวมทั้ง ช่องทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านแพลตฟอร์ม BaNANA และ Studio7 เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคในทุกเซกเมนต์ ด้วยบริการที่ครบวงจรกว่าเดิม

สำหรับกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,903.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการที่เพิ่มขึ้น โดยในส่วนของอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่เท่ากับ 13.2% ลดลงเล็กน้อย จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 13.4% จากสภาวะการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกจำหน่ายสินค้าไอทีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าลดลง อย่างไรก็ดี COM7 พยายามบริหารจัดการภายใน และควบคุมค่าใช้จ่ายต่อเนื่อง

โดยมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 620 ล้านบาท เติบโต 5.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 587 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวมอยู่ที่ 29,127.7 ล้านบาท เติบโต 23.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 23,551.4 ล้านบาท และมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 1,403.2 ล้านบาท เติบโต 21.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1,152.6 ล้านบาท

ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2565 มีสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท รวมทั้งหมด 1,090 สาขา แบ่งเป็น BaNANA จำนวน 418 สาขา, แฟรนไชส์ จำนวน 133 สาขา, True Shop by Com7 จำนวน 126 สาขา, Studio7 จำนวน 117 สาขา, KingKong Phone จำนวน 76 สาขา, BKK จำนวน 32 สาขา, iCare 30 สาขา และอื่นๆ จำนวน 158 สาขา จากปี 2564 มีทั้งหมด 1,045 สาขา เป็นอีกจุดแข็งสำคัญ เพื่อต่อยอดการเติบโตในอนาคต และตั้งเป้าสิ้นปีนี้ จะมีสาขารวมอยู่ที่ประมาณ 1,200 สาขา

อย่างไรก็ดี ภาพรวมธุรกิจครึ่งปีแรกเติบโต ท่ามกลางปัจจัยด้านความท้าทายและโอกาสจากการเตรียมพร้อมเข้าสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างเต็มรูปแบบ โดยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่สำคัญขององค์กรต่างๆ มุ่งเน้นการลงทุนด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนาวิถีการทำงานในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดย COM7 เล็งเห็นโอกาสขยายตลาดนี้ไปสู่กลุ่มลูกค้าคอมเมอร์เชียลมากขึ้น และในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เปิดฉากด้วยการประกาศจับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่กับ Alibaba Cloud ผู้ให้บริการคลาวด์ระดับแนวหน้าในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดย COM7 ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อเข้ามายังตลาดที่กำลังเติบโตมากขึ้นในประเทศไทย และนับเป็นการชิงส่วนแบ่งการตลาดใหม่ๆ เพิ่มเติม

ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง มองว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก รับอานิสงส์การเปิดตัวของสินค้าใหม่จากแบรนด์ชั้นนำ จะสนับนุนให้บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคคึกคัก และเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟน สนับสนุนเป้าหมายรายได้ปี 2565 จะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนตามที่วางไว้

ด้าน นางศันสนีย์ แสงโรจน์เพิ่มสุข สว่างเนตร Head of Brand Marketing กล่าวเสริมถึง New Opportunity ของ COM7 ในครึ่งปีหลัง ที่จะสนับสนุนความสามารถในการเติบโตของยอดขาย และโฟกัสช่องทางออนไลน์ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์ที่สำคัญ ได้แก่

กลยุทธ์การขยายช่องทาง BaNANA Shop Online ให้เป็นแหล่งรวมสินค้าไอทีในใจผู้บริโภค และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ช้อปออนไลน์ผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือ โดยเปิดตัวโมบายแอปพลิเคชั่น “BNN” เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ามาลงทะเบียนและดาวน์โหลดแล้วกว่า 5,000 ราย แม้ยังไม่ได้โปรโมท หรือทำการตลาด

กลยุทธ์ Omni Channel สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เชื่อมรอยต่อช่องทางระหว่าง Online to Offline เตรียมทำแคมเปญใหม่ในเดือนกันยายน กระตุ้นให้ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถรับสินค้าที่หน้าร้าน BaNANA ได้เลยภายใน 1 ชม. และเป็นการใช้จุดแข็งจากการมีร้าน BaNANA ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ ให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการที่ดียิ่งขึ้น

กลยุทธ์การขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B โดยเปิดตัว Employee Price Programs (EPP) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เกิดเป็นความร่วมมือระหว่าง COM7 กับองค์กรชั้นนำต่างๆ ให้สามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทาง BaNANA และได้รับสิทธิพิเศษกว่าใคร ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนเข้ามาในระบบแล้วราว 20,000 ราย ตั้งเป้าไตรมาส 3 ปีนี้มีผู้ลงทะเบียน 50,000 ราย

กลยุทธ์ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าแอปเปิ้ล เปิดตัวแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Studio7Thailand หรือ https://www.studio7thailand.com เริ่มให้บริการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีทราฟฟิกเข้ามาสูงถึงประมาณ 800,000 ราย โดยที่บริษัทยังไม่ได้ทำการตลาดเชิงรุก เพื่อย้ำการเป็น No.1 ร้านค้าปลีกสินค้าแบรนด์ Apple ผ่านช่องทางออฟไลน์ในปัจจุบัน และจะเดินหน้าตอกย้ำผู้นำในช่องทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน

กลยุทธ์ยกระดับศูนย์บริการ iCare Delivery Service นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยในการให้บริการซ่อมสินค้า Apple ทุกประเภท ผ่านช่องทางออนไลน์ ตอกย้ำการเป็น Apple Authorized Service Provider (AASP) ต่อยอดจากฐานปัจจุบัน COM7 มีสาขาของ iCare เพียง 30 สาขา ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทั่วประเทศได้

กลยุทธ์การขยายสินค้ากลุ่มใหม่ที่เป็นโอกาส ในครึ่งปีหลังเดินหน้าเจาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านต่อเนื่อง ชิงส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฮม และเตรียมพบกับคอนเซ็ปต์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม กับร้าน BaNANA Stand Alone จำนวน 3 สาขาใหม่ ได้แก่ สาขารามอินทรา ภูเก็ต และโลตัส ศรีนครินทร์

ที่มา: ไออาร์ พลัส