ชวนรู้จักที่ดินบน Bitkub Metaverse พื้นที่โลกเสมือนเหนือจินตนาการ

Bitkub Metaverse

Bitkub Metaverse กลายเป็นโปรเจกต์ ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ยืนหนึ่งในวงการบล็อกเชนประเทศไทย ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Bitkub เบอร์หนึ่งวงการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และ The Monk Studios ผู้เชี่ยวชาญการออกแบบและผลิตแอนิเมชันระดับโลก โดยสามารถถ่ายทอด Visual Effect ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสถึงประสบการณ์และรู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละคร ราวกับไปโลดแล่นบนจักรวาลนั้นจริง ๆ เรียกได้ว่าเป็นโปรเจกต์โลกเสมือนฝีมือคนไทยที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง

เรื่องราวบนดินแดน Bitkub Metaverse

Bitkub Metaverse คือ ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ในจักรวาลของ XRB Galaxy หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Mars” ดาวที่เต็มไปด้วยแหล่งอารยธรรมของชาว Rabbitian ที่อยู่อาศัยกันมานานนับ 10,000 ปี ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของชาว Rabbitian นี้เอง ไม่ว่าจะเป็น สิ่งปลูกสร้าง เครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ สุดล้ำสมัย การเดินทางอันแสนสะดวกที่ทำได้อย่างรวดเร็วและสิ่งล้ำ ๆ อีกมากมาย ทำให้ “Mars” ได้กลายเป็น “ดาวศูนย์กลาง” ของจักรวาล XRB Galaxy ที่คอยให้ความช่วยเหลือเอเลี่ยนจากดาวอื่น ผู้เล่นจะสามารถเข้ามาเดินบนดาวดวงนี้ ด้วยการสวมบทบาทเป็นชาว Rabbitian ที่จะสามารถมาพบปะเพื่อน ๆ และสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เปรียบเป็นโลกเสมือนอีกใบหนึ่งที่ให้ได้มาสนุกสนานร่วมกัน 

ที่ดิน (Land)

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หากไม่มีที่ดิน เราก็จะไม่สามารถมีสิ่งปลูกสร้างหรือผลผลิตได้ โดยที่ดินบน Bitkub Metaverse จะมีมากกว่า 10,000 Units (ในเฟสแรกจะเปิดแปลงใหม่เพิ่มอย่างต่อเนื่องจนครบกำหนดเต็มพื้นที่) โดยแบ่งเป็น 5 ไซส์ ประกอบด้วยขนาด XS (15*15 เมตร), S (30*15 เมตร), M (30*45 เมตร), L (60*90 เมตร), และ XL (180*120 เมตร) สามารถซื้อหลาย ๆ อันมาวางต่อกันรวมเป็นพื้นที่ใหญ่ได้ โดยก่อนจะมีบ้าน มีสัมปทาน จะต้องมีที่ดินก่อนเท่านั้น หากจะซื้อบ้านขนาด XS จะต้องมีที่ดินขนาด XS ทั้งนี้ พื้นที่บน Bitkub Metaverse จะมีทั้งหมด 6 โซน ประกอบด้วย Bitkub City, XRB City, Mutelulu, Port Town, The Oasis (Lake Land) และ Pioneer Village โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างบ้าน ทำธุรกิจ เปิดร้าน และใช้เป็นจุดรีชาร์จพลังงานได้

ที่ดินสำหรับทำฟาร์ม (Land for Farming)

ฟาร์มสำหรับเพาะปลูกจะมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะจำกัดว่าสามารถเพาะปลูกผลผลิตได้แค่ตามชนิดที่กำหนดเท่านั้นและราคาผลผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เล่น ณ ขณะนั้น ซึ่งในเฟสแรกมีจะมีจำนวน 101,250 Units โดยตัวอย่างของผลผลิตที่สามารถปลูกได้ มีดังนี้

  • Type A สามารถปลูกผลผลิต ได้แก่ Coffee Beans, Oranges, Apple และ Strawberry
  • Type B สามารถปลูกผลผลิต ได้แก่ Lemon, Pineapple, Grape และ Pomegranate
  • Type C สามารถปลูกผลผลิต ได้แก่ Watermelon, Carrot, Tomato และ Prune
  • Type D จะเป็น Type ที่พิเศษที่สุด โดยสามารถปลูกผลผลิตได้ทุกชนิดของทั้ง Type A, B และ C 

ทั้งนี้ เรื่องราวบนดินแดนโลกเสมือนแห่งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งและจุดเริ่มต้นที่มีความแตกต่างและพิเศษกว่าเดิม ที่เปิดโอกาสให้คุณสร้างอาชีพและความเป็นไปได้   ใหม่ ๆ ได้อย่างไม่รู้จบ ไม่ว่าคุณจะมีไลฟ์สไตล์แบบไหนก็สามารถสนุกสนานไปใน Bitkub Metaverse ได้อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสารและข้อมูลของ Bitkub Metaverse ได้ที่ 

Facebook : https://www.facebook.com/bitkubmetaverse

ที่มา: บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์