ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud สำหรับองค์กร

ManageEngine ซึ่งเป็นหน่วยงานในเครือบริษัท Zoho Corp. และผู้ให้บริการโซลูชันการจัดการไอทีระดับองค์กรชั้นนำประกาศว่า CloudSpend ซึ่งเป็นเครื่องมือจัดการต้นทุนบนคลาวด์ของ ManageEngine ได้รับการพัฒนาให้สามารถรองรับ Google Cloud Platform (GCP) ได้ ซึ่งการขยายการให้บริการไปยัง GCP หลังจากที่สามารถรองรับ AWS และ Microsoft Azure ได้แล้วนั้น ส่งผลให้ ณ ขณะนี้ CloudSpend สามารถให้บริการครอบคลุมแพลตฟอร์มคลาวด์คอมพิวติ้งสาธารณะที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดใหญ่ที่สุดทั้งสามแห่งของโลก ช่วยให้องค์กรที่ใช้งานมัลติคลาวด์สามารถบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มศักยภาพของ CloudSpend ให้สามารถตรวจจับความผิดปกติของต้นทุน ซึ่งช่วยตรวจสอบและจัดการจุดบอดด้านต้นทุนเมื่อมีการใช้งานผู้บริการระบบคลาวด์หลายแห่งพร้อมกัน ทั้งนี้ บริษัทได้จัดแสดงการสาธิตการใช้งานฟีเจอร์ GCP ของ CloudSpend ในงาน Google Next 2024 ที่ผ่านมา

มัลติคลาวด์คือหนทางแห่งอนาคต

ปัจจุบันหลายองค์กรใช้คลาวด์หลายแพลตฟอร์มเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจที่มีความหลากหลาย ทั้งการแบ่งภาระงาน การลดต้นทุน และเพื่อให้ประสบความสำเร็จในการบริหารงานในท้ายที่สุด ด้วยเหตุนี้ ทุกองค์กรต่างลงทุนเพื่อใช้งานระบบคลาวด์สาธารณะซึ่งอาจคิดเป็นจำนวนเงินสูงถึง 679 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 ส่งผลให้เริ่มมีแพลตฟอร์มที่ช่วยสังเกตการณ์ต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานแพลตฟอร์มเพื่อรักษาสภาพการเงินบนคลาวด์

คุณ Srinivasa Raghavan ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ ManageEngine กล่าวว่า ” ManageEngine ประเมินว่า องค์กรที่ดำเนินงานโดยใช้ผู้ให้บริการคลาวด์หลายรายมักจะใช้ทรัพยากรคลาวด์ได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยมีการใช้งานคลาวด์ได้ไม่ถึง 55% ซึ่งเราเชื่อว่า CloudSpend ของ ManageEngine จะช่วยให้ธุรกิจก้าวข้ามความท้าทายดังกล่าวไปได้และสามารถใช้งานคลาวด์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เอื้อให้องค์กรสามารถมองเห็นภาพทั้งหมดและความคุ้มค่าในการลงทุน โดยแพลตฟอร์มข้อมูลอัจฉริยะด้านต้นทุนแบบมัลติคลาวด์นี้ได้ใช้แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของ FinOps และยิ่งล้ำกว่าเดิมด้วยฟีเจอร์การคาดการณ์อัจฉริยะที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นอกจากนี้ยังผสานรวมการวางแผนกำลังการผลิตและการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนสำหรับทรัพยากรต่าง ๆ ที่อยู่ในมัลติคลาวด์”

ล่าสุด CloudSpend ยังมีการอัพเดทฟีเจอร์ที่ช่วยตรวจจับความผิดปกติของต้นทุน ซึ่งจะดำเนินการตรวจจับความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับต้นทุนในระดับองค์กร สามารถระบุต้นทุนที่เพิ่มขึ้นหรือการใช้ทรัพยากรที่ไม่คาดคิดซึ่งมีความเบี่ยงเบนไปจากปกติอย่างมาก นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการกำหนดราคาที่คลุมเครือ ซึ่งต้นทุนอาจถูกซ่อนอยู่และอาจสูงกว่าที่คาดไว้ก็เป็นได้

คุณสมบัติเด่นของ ManageEngine CloudSpend

  • หน่วยธุรกิจและการปฏิเสธการชำระเงิน : เพื่อความรับผิดชอบที่มากขึ้นระหว่างแผนกต่าง ๆ CloudSpend Business Units ช่วยให้องค์กรดำเนินการเรียกเก็บเงินคืนและสร้างความรับผิดชอบภายในองค์กร
  • การจัดทำงบประมาณและการคาดการณ์ : สร้างงบประมาณในหลายสกุลเงินโดยอิงนโยบายงบประมาณและตั้งค่าการแจ้งเตือนด้านงบประมาณ ทำความเข้าใจว่าเส้นทางของต้นทุนเป็นอย่างไรด้วยแบบจำลองการคาดการณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตามการใช้งาน
  • เครื่องมือสำรวจทรัพยากร : เจาะลึกต้นทุนที่ระดับทรัพยากรเพื่อการมองเห็นต้นทุนในเชิงลึกด้วยการแท็กอัจฉริยะ และรับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับทรัพยากรที่แยกออกมา

ราคาและการจำหน่าย

ราคาของ CloudSpend แตกต่างกันไปตามขนาดธุรกิจ โดยให้บริการการติดตามค่าใช้จ่ายฟรีสูงสุด 3,000 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับการใช้จ่ายบน GCP, AWS และ Azure cloud ส่วนเวอร์ชันที่ต้องชำระเงินนั้น เริ่มต้นที่ 1% ของการใช้จ่ายรายเดือนที่มากกว่า 3,000 ดอลลาร์ และสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งบน iOS และ Android หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมและลงทะเบียนทดลองใช้ CloudSpend ฟรี 30 วัน สามารถเข้าไปได้ที่ www.mnge.it/cdsd