แคสเปอร์สกี้แนะนำการตั้งค่า Gemini เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

เร็วๆ นี้มีประกาศว่า Gemini AI ของ Google จะสามารถเข้าถึงแอปของบุคคลที่สาม เช่น WhatsApp ได้ตั้งแต่ค่าเริ่มต้น (by default) ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้กล่าวว่า เรื่องนี้นับเป็นสัญญาณเตือนภัยร้ายแรงด้านความเป็นส่วนตัว แอปส่งข้อความส่วนตัวเป็นหนึ่งในพื้นที่ดิจิทัลที่ละเอียดอ่อนที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน เนื่องจากมีบทสนทนาส่วนตัว ข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลที่อาจเป็นความลับ การให้เครื่องมือ AI เข้าถึงข้อความเหล่านี้โดยอัตโนมัติโดยไม่ได้รับความยินยอมที่ชัดเจนและชัดแจ้ง ถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจของผู้ใช้งาน

แม้ว่า Google จะระบุว่าฟีเจอร์นี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้การโต้ตอบนั้นราบรื่นยิ่งขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญของแคสเปอร์สกี้เห็นว่า การขาดความโปร่งใสและไม่มีช่องทางให้เลือกไม่เข้าร่วมแทนที่จะเป็นการเลือกเข้าร่วม อาจทำให้ผู้ใช้จำนวนมากไม่ทราบว่าการแชทส่วนตัวของตนถูกประมวลผลโดยระบบ AI

มาร์ก ริเวโร หัวหน้านักวิจัยความปลอดภัย ทีมวิจัยและวิเคราะห์ระดับโลก (Global Research & Analysis Team -GReAT) แคสเปอร์สกี้ กล่าวว่า “จากมุมมองด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เรื่องนี้น่ากังวลมาก ด้วยอาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ประโยชน์จาก AI มากขึ้น เพื่อขยายขอบเขตการโจมตีทางวิศวกรรมสังคมและขโมยข้อมูลส่วนบุคคล หากผู้ก่อภัยคุกคามพบวิธีใช้ประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว อาจสร้างช่องทางใหม่ๆ ในการฉ้อโกง การขโมยข้อมูลประจำตัว และกิจกรรมที่เป็นอันตรายอื่นๆ”

“ท้ายที่สุดแล้ว AI ควรยกระดับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ไม่ใช่ละเมิดความปลอดภัย การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลระดับสูงโดยค่าเริ่มต้นโดยไม่มีการป้องกันที่แข็งแกร่งจะสร้างรูปแบบที่เป็นอันตราย บริษัทต่างๆ ควรมุ่งเน้นไปที่การเสริมความสามารถให้ผู้ใช้ได้ควบคุมอย่างเต็มที่ มีความชัดเจนเกี่ยวกับการนำข้อมูลของผู้ใช้ไปใช้งาน และควรทำให้ผู้ใช้มั่นใจว่าการใช้งาน AI นั้นให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก” ริเวโรกล่าวเสริม

แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำการตั้งค่า Gemini เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ดังนี้

วิธีปิดใช้งาน Gemini ผ่านแอป

  1. เปิด Gemini บนอุปกรณ์ Android
  2. แตะรูปโปรไฟล์หรือชื่อย่อที่มุมขวาบน
  3. เลือก Gemini Apps Activity
  4. แตะ Turn off หรือเลือก Turn off and delete activity

วิธีปิดใช้งาน Gemini ผ่านเว็บอินเทอร์เฟซ

  1. เปิด Gemini ในเบราว์เซอร์
  2. คลิกเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่มุมซ้ายบน
  3. เลือก Activity or Settings & Help เลือก Activity
  4. แตะ Turn off หรือเลือก Turn off and delete activity

หรือสามารถไปที่ตัวเลือกนั้นเพื่อปิดกิจกรรมแอป Gemini ได้เลย

การบล็อก Gemini ไม่ให้เข้าถึงแอปและบริการส่วนบุคคล

หากต้องการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลของ Gemini เฉพาะจากบริการบางอย่าง เช่น อีเมลหรือรูปภาพ แทนที่จะปิดใช้งานตัวช่วย AI ทั้งหมด สามารถกำหนดได้ว่าแอปใดที่ Gemini สามารถทำงานร่วมด้วยได้และแอปใดที่ Gemini ไม่สามารถทำงานร่วมได้

วิธีปิดใช้งานการเข้าถึงบริการส่วนบุคคลของ Gemini ผ่านแอป

  1. เปิดแอป Gemini
  2. ไปที่โปรไฟล์และเลือกApps
  3. ปิดสวิตช์ที่อยู่ถัดจากแต่ละแอปหรือบริการที่ไม่ต้องการแชร์ข้อมูลกับ Gemini

วิธีปิดใช้งานการเข้าถึงบริการส่วนบุคคลของ Gemini ผ่านทางเว็บอินเทอร์เฟซ

  1. เปิด Gemini ในเบราว์เซอร์
  2. คลิกเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่มุมซ้ายบน
  3. เลือก Settings & help เลือก Apps
  4. ปิดสวิตช์ที่อยู่ถัดจากแต่ละแอปหรือบริการที่ไม่ต้องการแชร์ข้อมูลกับ Gemini

หรือสามารถไปที่ส่วนการตั้งค่านั้นได้โดยตรง

Disabling Gemini’s access to individual services via the web interface

วิธีลบ Gemini ออกจากสมาร์ทโฟนอย่างสมบูรณ์

หากวางแผนที่จะไม่ใช้ Gemini บนโทรศัพท์โดยสิ้นเชิง สามารถถอนการติดตั้งแอปได้ง่ายๆ ดังนี้

  1. ไปที่ Settings และเลือก Apps
  2. ค้นหา Gemini แล้วแตะ Uninstall หากมีตัวเลือกดังกล่าว
  3. หากไม่เห็นตัวเลือกถอนการติดตั้ง (Uninstall) ให้แตะปิดใช้งาน (Disable) แทน

Gemini เป็นแอประบบในโทรศัพท์บางรุ่น จึงลบออกได้ยาก สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการจัดการปัญหานี้ โปรดดูที่ลิงก์นี้

หากผู้ใช้ตัดสินใจว่าไม่ต้องการบริการของ Google บนโทรศัพท์ ลองพิจารณาติดตั้ง GrapheneOS แต่ทั้งนี้นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ Pixel เท่านั้น

แคสเปอร์สกี้ขอแนะนำการปกป้องอุปกรณ์ Android โดยการใช้โซลูชันความปลอดภัยที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว อย่างเช่น Kaspersky for Android ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้อุ่นใจและไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับมัลแวร์ ความเป็นส่วนตัว รหัสผ่าน ข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการชำระเงินต่างๆ

สำหรับการตั้งค่า Gemini เพิ่มเติมอื่นๆ โปรดไปที่ลิงก์นี้https://www.kaspersky.com/blog/how-to-disable-gemini-on-android/53771/