ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี พร้อมเป็นพันธมิตรช่วยยกระดับศักยภาพภาคธุรกิจไทย เตรียมพร้อมรับมือในโลกธุรกิจยุคใหม่ ด้วยหัวข้ออบรมในหลักสูตร “LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่นที่ 20” เสริมองค์ความรู้ด้าน AI สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหาร-เครื่องดื่ม-สินค้าอุปโภคบริโภค พร้อมแชร์ประสบการณ์ตรงจากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ หนุนสร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน
ทีทีบี เล็งเห็นความสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ธุรกิจที่ปรับตัวได้ไวคือธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ไกลกว่าเดิม AI กลายเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น เข้าใจลูกค้าได้ลึกขึ้น และสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน ในการจัดอบรมหลักสูตร “LEAN for Sustainable Growth by ttb รุ่นที่ 20” ครั้งนี้ ทีทีบีเสริมองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าอุปโภคบริโภค ในหัวข้อ “AI for Business” เปิดมุมมองใหม่ในการใช้ AI เพื่อสร้างการเติบโต โดยมีเนื้อหาเข้มข้นจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาควิชาการและภาคธุรกิจ
หัวใจสำคัญคือการ “เลือก AI ให้ถูกงาน”
นางสาวอรจิรา ธนรัช หรือ “อาจารย์มาย” AI Expert Certified Trainer, สถาบันพัฒนาองค์กร Solutions IMPACT ถ่ายทอดมุมมองและแนวทางการประยุกต์ใช้ AI ในสภาพแวดล้อมการทำงานจริง โดยชี้ให้เห็นว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่เป็นยุคสมัยที่ธุรกิจต้องปรับตัวและใช้ประโยชน์อย่างเร่งด่วน หรือ AI Transformation NOW! เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ และรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ
การนำ AI มาใช้ในองค์กร ควรเริ่มต้นจากการทำความเข้าใจบทบาทของ AI ที่หลากหลาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักใน Insights AI Model ได้แก่
- Detective AI: AI ที่ช่วยวิเคราะห์ “เกิดอะไรขึ้น” (What Happened) จากข้อมูลในอดีต
- Predictive AI: AI ที่คาดการณ์ “จะเกิดอะไรขึ้น” (What Will Happen) ในอนาคต
- Generative AI: AI ที่สร้างสรรค์ “ควรทำอะไร” (What to Do) เพื่อแก้ปัญหา หรือสร้างสิ่งใหม่
- Automation AI: AI ที่ช่วยทำให้ “ทำเสร็จแล้ว” (Done for Me) โดยอัตโนมัติ
หัวใจสำคัญ คือการเลือก AI ให้ถูกงาน และสามารถผสานพลังกันได้ ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนจุดอ่อนขององค์กรให้เป็นจุดแข็ง โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) แสดงให้เห็นถึงขอบเขตความสามารถของ AI ในปัจจุบันที่กว้างขวาง ครอบคลุมตั้งแต่การสร้างข้อความ การทำความเข้าใจภาษา การตอบคำถาม การรู้จักเสียงพูด การจำเสียงพูด และการแปลภาษา ไปจนถึงการสร้างบทสนทนาที่ซับซ้อน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพที่ AI สามารถเข้ามาช่วยงานได้ในหลายมิติ
ซีพี แอ็กซ์ตร้า ชู AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจลูกค้าและยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีก
นายถิรายุ ทรงเวชเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานดิจิทัล บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก “แม็คโคร-โลตัส” ได้แชร์ประสบการณ์จากการนำ AI มาใช้ในธุรกิจค้าส่ง-ค้าปลีก โดยย้ำว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทางเทคโนโลยี แต่เปรียบเสมือน “ผู้ช่วยอัจฉริยะ” ที่เข้าใจ และสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลของลูกค้าได้อย่างตรงจุด พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลเชิงลึกจากประสบการณ์จริงของผู้ใช้งาน เพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการให้แม่นยำยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ
AI ยังทำหน้าที่เป็น “ประตูสู่องค์ความรู้” ให้องค์กรได้เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกที่หลากหลาย ที่ไม่เพียงช่วยต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการได้ตรงจุด แต่ยังยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานได้อย่างรอบด้านอีกด้วย การประยุกต์ใช้ AI จึงไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ แต่เป็นการปรับใช้กับสิ่งที่มีอยู่ เพื่อสร้างประสิทธิผลที่มากกว่าเดิม
หัวใจสำคัญคือการเลือกโซลูชันที่ “ตอบโจทย์และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้งานในสถานการณ์จริง” โดยเริ่มจากการกำหนดเป้าหมายหลักที่ชัดเจน แบ่งเป็นขั้นตอนย่อยที่สามารถปฏิบัติได้จริง และสื่อสารให้ทุกทีมเข้าใจเป้าหมายร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกันว่า AI คือเครื่องมือที่เข้ามาช่วยให้งานง่ายขึ้น ไม่ใช่เพิ่มความซับซ้อน ทั้งยังเน้นการ “เริ่มใช้จากสิ่งที่มีอยู่แล้ว” แทนการเสียเวลา 8-10 เดือน ในการเตรียมข้อมูลหรือสร้างทีมใหม่
หนึ่งในความสำเร็จของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ที่เห็นผลชัดเจนคือการพัฒนาระบบแนะนำสินค้า (Recommendation System) บนแพลตฟอร์ม “Makro PRO” ซึ่งเป็น Grocery E-Commerce อันดับ 1 ของไทยที่พัฒนาโดยทีม ซีพี แอ็กซ์ตร้า เอง โดยเริ่มจากการปรับหมวดสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้า ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายต่อครั้งของลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 33% และสามารถต่อยอดขยายผลได้กว้างขึ้น
นอกจากนี้ AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์และการจัดส่ง ด้วยการวิเคราะห์ปัญหาหน้างานจริงและปรับเส้นทางขนส่งใหม่ที่เหมาะสม ทำให้การส่งมอบสินค้าแม่นยำและรวดเร็วขึ้น และอีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือการพัฒนา Hybrid LLM AI ที่ปรับผลลัพธ์การค้นหาให้ตรงกับความต้องการลูกค้าเฉพาะบุคคล โดยอ้างอิงจากพฤติกรรมการใช้งานและประวัติการค้นหาก่อนหน้า ซึ่งเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงสร้างประสบการณ์ Hyper Personalization ที่เหนือกว่า แต่ยังได้รับการจดสิทธิบัตรแล้ว และถือเป็นนวัตกรรม AI โดยฝีมือบริษัทสัญชาติไทย อีกด้วย
ทีทีบี มุ่งมั่นเสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการไทย ผ่านองค์ความรู้ที่หลากหลายภายใต้โครงการ finbiz by ttb อย่างต่อเนื่อง ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งในรูปแบบการจัดสัมมนา โซเชียลมีเดียทั้งเฟสบุ๊ก และทีทีบี เอสเอ็มอี ไลน์ บทความบนเว็บไซต์ของทีทีบี เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าธุรกิจได้นำองค์ความรู้ต่าง ๆ ไปปรับใช้เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลง สามารถเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน