แคมเปญ “Add to cart. Express your art.” ของ Google Gemini พลิกโฉมวงการอีคอมเมิร์ซให้กลายเป็นแห่งพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์

Superson, AnyMind Group และ The Carrot Collective ผนึกกำลังเปิดตัว AI Prompt รูปแบบแรกของ Google Gemini บนร้านค้าใน Lazada สำหรับแคมเปญใหญ่ 12.12 ในประเทศไทย

Google ร่วมกับ Superson, AnyMind Group, The Carrot Collective, dFusion และ Voxxy ร่วมกันสร้างสรรค์อีคอมเมิร์ซรูปแบบใหม่สำหรับ Lazada 12.12 All Out Year End Sale ในประเทศไทย ด้วยการเปิดตัว ร้าน Google Gemini บน Lazada ร้านค้าออนไลน์ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งแจก Nano Banana prompts ที่กำลังเป็นเทรนด์ให้ใช้งานฟรี เปลี่ยนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับต้น ๆ ของประเทศให้กลายเป็นพื้นที่เล่นสนุกทางด้านความคิดสร้างสรรค์

ภายใต้แท็กไลน์ “Add to cart. Express your art.” หรือ “อย่าหยุดแค่ช้อป แต่ต้องป๊อปจนอาร์ต” แคมเปญชวนผู้บริโภคคนไทยเลือกชมสไตล์ภาพ AI ที่กำลังมาแรง และสร้างคอนเทนต์แบบเฉพาะตัวได้ด้วย Nano Banana Pro อัปเกรดล่าสุดด้านการสร้างภาพในแอป Gemini มากกว่าการเลือกซื้อสินค้า ผู้ซื้อเพียงสแกน QR Code บนหน้าแสดงรายการสินค้าเพื่อปลดล็อก prompt สำเร็จรูป สำหรับเทรนด์ยอดนิยม ไม่ว่าจะเป็น การสร้างภาพครอบครัว การ์ดเทศกาล ภาพเซลฟี่ฤดูหนาว เฟรมการ์ตูน โปสเตอร์คาแรกเตอร์ และเมืองไอโซเมตริก

นิยามใหม่ของอีคอมเมิร์ซผ่านพลังความร่วมมือเชิงสร้างสรรค์

แคมเปญนี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของวิธีที่แบรนด์จะมีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในช่วงพีคซีซันของการช้อปปิ้ง จากการขายสินค้าแบบเดิม สู่การเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์ให้นักช้อป สร้างสรรค์ผลงานภายในระยะเวลาอันสั้นเพื่อรองรับ Lazada 12.12 All Out Year End Sale โครงการนี้แสดงให้เห็นว่าความร่วมมือระหว่างผู้นำ ด้านเทคโนโลยี ครีเอทีฟเอเจนซี่ และพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่สามารถสร้างผลงานที่โดดเด่นภายในเวลาที่สั้น

ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็ว ผ่านการแบ่งบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจนในแต่ละพาร์ทเนอร์ ความร่วมมือนี้ผสานเอาเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยของ Google เข้ากับความครีเอทีฟ ระบบของอินฟลูเอนเซอร์ และโครงสร้างพื้นฐานอีคอมเมิร์ซของไทย ส่งมอบแคมเปญภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งปกติอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนในโมเดล เอเจนซีแบบดั้งเดิม นอกจากนี้ Google ยังมอบ สิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรี 3 เดือน ให้กับผู้ช้อปจำนวนจำกัดที่เข้าชมร้าน Prompt

“สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยี AI สามารถสร้างสรรค์ผลงานรูปแบบใหม่ๆ ได้ เราไม่ได้ขายสินค้า แต่กำลังทำให้ความคิดสร้างสรรค์เข้าถึงได้ในวงกว้าง และทำให้เครื่องมือ AI เปิดกว้างต่อคนไทยมากขึ้น Google พิสูจน์ให้เห็นว่าแบรนด์สามารถรวบรวมทีมผู้เชี่ยวชาญที่ดีที่สุดข้ามเอเจนซีและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีได้ และนี่คือยุคของความคิดสร้างสรรค์ที่มีพลัง จากการร่วมมือกันสร้างสรรค์ผลงานที่โดดเด่น ที่แต่ละพาร์ทเนอร์นำจุดแข็งของตนมาเสริมกัน “Antti Toivonen, MD for Superson APAC กล่าว

คุณศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย, Marketing Director, Consumer Products in Southeast Asia & South Asia Frontier, Google เสริม “เราเห็นด้วยตาว่าผู้ใช้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตื่นเต้นกับความเป็นไปได้ของ Nano Banana Pro มากเพียงใด จากเทรนด์ AI ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเราอยากให้ทุกคนได้ไปอยู่จุดนั้น ไม่ใช่เพียงแค่มองดู แนวคิดการแจกทักษะการเขียน prompt ฟรีในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งเริ่มจาก ‘ไอเดียสุดบ้าบิ่น’ ไปสู่ผลงานที่เกิดขึ้นได้จริงผ่านเทคนิคที่ล้ำสมัย แต่สิ่งนี้ได้พิสูจน์พลังของการรวมเอาระบบนิเวศผู้เชี่ยวชาญที่หลากหลายไว้ในลูปเดียวกัน ช่วยสร้างเวทมนตร์ให้กับทุกคน”

David Webster, Founder, The Carrot Collective กล่าวว่า “โปรเจกต์นี้แสดงให้เห็นว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากมีการรวมเอาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านผนวกเข้ากับความเร็วของ AI ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของทีมในสิงคโปร์ กรุงเทพฯ และจาการ์ตา ทำให้เราสามารถขับเคลื่อนไอเดียสู่การลงมือทำได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก นี่คืออนาคตของความร่วมมือด้านครีเอทีฟ คล่องตัว กระจายศูนย์ และขับเคลื่อนด้วยเครื่องมือ ที่ทำให้ครีเอเตอร์สามารถทำงานได้ตามการเคลื่อนไหวของวัฒนธรรมและสังคม”

“นวัตกรรมจะไร้พลังหากไม่สามารถออกสู่ตลาดได้ตามการเคลื่อนไหวของสังคม การจะขับเคลื่อนได้เร็ว แบรนด์ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่ผสานรวมเอาการตลาด เทคโนโลยี และคอมเมิร์ซเข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี ซึ่ง AnyMind ทำหน้าที่เชื่อม AI ของ Google เข้ากับแพลตฟอร์ม Lazada โดยตรง เป็นบทพิสูจน์ว่า เมื่อมีแก่นกลางที่แข็งแรง เราจะสามารถขจัดอุปสรรคทางด้านปฏิบัติการ และสร้างความตื่นเต้นให้ผู้บริโภคร่วมกันในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” คุณเกียรติศักดิ์ วัชราพฤกษ์, Managing Director, Creator Growth, AnyMind Group กล่าว

คุณวาริสฐา เกียรติภิญโญชัย, CEO, Lazada Thailand กล่าวเสริมว่า “ในฐานะผู้บุกเบิกของประเทศภูมิภาค เรากำลังนำเอาการเปลี่ยนแปลงทางอีคอมเมิร์ซเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านเทคโนโลยีและ AI ความร่วมมือนี้ตอบโจทย์ความต้องการและการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการส่งมอบนวัตกรรมและประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์ ‘Next-Level E-commerce’ “

ส่งมอบแคมเปญแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งออนไลน์และออฟไลน์

ร้านค้า Google Gemini Thailand ได้ถูกเปิดตัว ภายใต้การประชาสัมพันธ์จากหลากหลายช่องทาง ได้แก่

  • สื่อ Out-of-Home จำนวน 80 จุด พร้อม QR Code นำผู้ใช้ไปยัง Google Gemini Store บน Lazada
  • Live Shopping บน LazLive ที่ร้านค้า Google Gemini โดยอินฟลูเอนเซอร์ไทยสาธิตการใช้ prompt ระหว่างไลฟ์
  • สิทธิ์ใช้งาน Google AI Pro ฟรี 3 เดือน สำหรับผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆ เพื่อเข้าถึงฟีเจอร์ AI ระดับพรีเมียม (มีจำนวนจำกัด)

ร้านเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อ 11 ธันวาคม ก่อนเข้าสู่ช่วง Lazada 12.12 All Out Year End Sale ซึ่งเป็นหนึ่งในอีเวนต์อีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดของปีในประเทศไทย

เทคโนโลยที่ทำให้ AI เข้าถึงได้ขึ้นง่าย

แคมเปญนี้พัฒนาด้วย Nano Banana Pro บน Gemini โชว์ศักยภาพด้านความสม่ำเสมอของตัวอักษร ความแม่นยำของข้อความ และการควบคุมเชิงครีเอทีฟอย่างละเอียด “สินค้า” แต่ละชิ้นในร้านค้าบน Lazada คือ prompt ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันและปรับให้เหมาะกับสไตล์ภาพที่กำลังเป็นเทรนด์ ลดอุปสรรคทางเทคนิคสำหรับผู้ใช้ที่ไม่คุ้นเคยกับการสร้างภาพด้วย AI

เมื่อสแกน QR Code บนมือถือ ผู้ใช้จะถูกนำไปยัง gemini.google.com โดย prompt จะโหลดอัตโนมัติพร้อมภาพตัวอย่าง ผู้ใช้สามารถสร้างและปรับแต่งได้ทันที ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปเข้าถึงได้เทคโนโลยี AI อย่างแท้จริง เป็นการทำให้ AI ขั้นสูง ซึ่งเคยจำกัดอยู่แค่ในวงการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ได้เข้าถึงและเป็นของทุกคนอย่างแท้จริง

โมเดลการทำงานแบบไฮบริด ผสานรวมกับ นวัตกรรมทางด้านอีคอมเมิร์ซ

โครงการนี้สะท้อนแนวทางความร่วมมือทางด้านการตลาดยุคใหม่ของ Google โดยทำหน้าที่เป็นผู้ประสาน ระหว่างแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซหลัก (Lazada) ครีเอทีฟเอเจนซี่ (Superson, The Carrot Collective) และพาร์ทเนอร์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (AnyMind Group, Voxxy และ dFusion)

Toivonen กล่าวต่อว่า “การทำงานกับหลายพาร์ทเนอร์ในโปรเจกต์นี้สะท้อนวิธีคิดของแบรนด์ยุคใหม่ในการสร้างทีมที่แข็งแกร่ง ผู้นำทางการตลาดกำลังปรับโครงสร้าง ออกจากโมเดลเดิมสู่โซลูชันที่คล่องตัว แคมเปญนี้แสดงให้เห็นโมเดลไฮบริดในเชิงปฏิบัติการ ที่ๆผู้นำทางด้านเทคโนโลยีได้นำเอาเครื่องมือมาใช้ ผสานร่วมกับความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากพาร์ทเนอร์ และร่วมมือกันแบบส่งมอบแคมเปญนวัตกรรมด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน”