เมื่อเร็ว ๆ นี้ ฟิลิปส์ ประเทศไทย ผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการดูแลสุขภาพระดับโลก จัดงานเปิดตัวนวัตกรรมอัลตราซาวด์รุ่นใหม่ล่าสุด Philips Elevate Release ซีรีย์ใหม่ของเครื่องอัลตราซาวด์ Philips EPIQ Elite และ Affiniti ที่มาพร้อมเทคโนโลยี AI เพื่อช่วยให้การตรวจวินิจฉัยและเวิร์กโฟลว์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น และเสริมความมั่นใจในการวินิจฉัยทางคลินิก
ถึงแม้ว่าอัลตราซาวด์จะเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการแพทย์ด้านตรวจวินิจฉัยที่มีความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายที่สุด แต่เมื่อจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กลับมีจำนวนจำกัด และการฝึกอบรมบุคลากรใหม่ต้องใช้เวลานาน ทำให้ผู้ให้บริการด้านสาธารณสุขยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในการรองรับความต้องการของผู้ป่วยจำนวนมากอยู่ สอดคล้องกับผลสำรวจ Future Health Index (FHI) 2025 ที่จัดทำโดยฟิลิปส์ ซึ่งเปิดเผยว่าผู้ป่วยในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกว่า 2 ใน 3 ต้องรอพบแพทย์เฉพาะทางนานถึงหนึ่งเดือนครึ่ง และ 1 ใน 3 ระบุว่าอาการทรุดลงจากความล่าช้า ทั้งนี้ระบบสาธารณสุขไทยเองก็เผชิญปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่เชี่ยวชาญ อันอาจนำไปสู่ความล่าช้าในการวินิจฉัยและการรักษา
นายวิโรจน์ วิทยาเวโรจน์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพระดับโลก ฟิลิปส์ตระหนักดีถึงความท้าทายที่ระบบสาธารณสุขไทยกำลังเผชิญ เราจึงมุ่งมั่นเดินหน้าตามพันธกิจในการยกระดับสุขภาพของผู้คนผ่านนวัตกรรมอันทรงคุณค่า เราจึงได้แนะนำเครื่องอัลตราซาวด์รุ่นใหม่ล่าสุด Philips Elevate Release ในรุ่น EPIQ Elite และ Affiniti ที่มาพร้อมแพลตฟอร์ม Elevate ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้านเวิร์กโฟลว์ที่รวดเร็วขึ้น และกระบวนการวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Philips Elevate Release ถูกพัฒนาขึ้นจากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับบุคลากรทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องอัลตราซาวด์ เพื่อยกระดับทุกขั้นตอนของการตรวจอัลตราซาวด์ ตั้งแต่การเตรียมผู้ป่วย การสแกนภาพผู้ป่วย ไปจนถึงการวัดผลเชิงปริมาณ และการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการสร้างภาพและประมวลผล เราจึงเชื่อมั่นว่า Philips Elevate Release จะสามารถตอบโจทย์ความท้าทายสำคัญที่ระบบสาธารณสุขเผชิญอยู่ในกระบวนการดำเนินงานทางคลินิก โดยการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจอัลตราซาวด์ให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์และอัตราการตรวจ เพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนบุคลากรและจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มสูงขึ้น”
Philips Elevate Release มาพร้อมด้วยพรีเซ็ตการตรวจกว่า 100 รายการ ทั้งการตรวจช่องท้อง ระบบหลอดเลือด อวัยวะขนาดเล็ก กุมารเวชศาสตร์ และสูติ-นรีเวชศาสตร์ (OB/GYN) รองรับหัวตรวจหลากหลายชนิด จึงให้ภาพวินิจฉัยที่มีความแม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมเวิร์กโฟลว์ที่ใช้งานได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยเสริมความมั่นใจในการตัดสินใจทางคลินิก นอกจากนั้น ซอฟต์แวร์ Elevate Release ใหม่นี้ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของฟิลิปส์ด้านเทคโนโลยีอัลตราซาวด์ ด้วยระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์และการควบคุมข้อมูลระดับสูง พร้อมการอัปเกรดซอฟต์แวร์จากระยะไกล เพื่อช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างรวดเร็วและสามารถระบุปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
และเพื่อสนับสนุนการบริการด้านสาธารณสุขในยุคดิจิทัลเฮลท์แคร์ Philips Elevate Release นี้ยังมาพร้อมระบบติดตามเชิงรุก (Proactive Monitoring) และการเข้าถึงจากระยะไกลผ่าน Collaboration Live ช่วยให้ทีมแพทย์ในพื้นที่สามารถปรึกษาและวินิจฉัยร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากส่วนกลางได้อีกด้วย
ฟีเจอร์อัตโนมัติและอัลกอริทึมขั้นสูง ช่วยอัปเกรดการวินิจฉัยให้รวดเร็วและมั่นใจยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์อัตโนมัติใหม่ล่าสุดประกอบด้วย Quick Launch Pre-sets ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการตั้งค่าระบบ และทำให้กระบวนการตรวจรวดเร็วขึ้น โดยในการตรวจช่องท้อง สามารถช่วยลดระยะเวลาในการปรับตั้งค่าเพื่อให้ได้ภาพที่เหมาะสมได้สูงสุดถึง 50%[1] นวัตกรรมล่าสุดนี้ยังช่วยยกระดับประสบการณ์ของทั้งผู้ใช้งานและผู้ป่วย ด้วยการปรับค่าความสว่างและความสม่ำเสมอของภาพอัตโนมัติ พร้อมลดจำนวนการกดปุ่มได้สูงสุดถึง 54%[2] นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Contrast Enhanced Ultrasound (CEUS) AutoScan มาใช้ เพื่อการปรับและตั้งค่าภาพอัตโนมัติส่งผลให้คุณภาพของภาพดียิ่งขึ้น และเพิ่มความมั่นใจในการวินิจฉัยยิ่งขึ้น
การตรวจวัดค่าของตับ (Liver Elastography) ด้วยเทคโนโลยี Philips ElastQ Imaging ซึ่งเป็นการตรวจอัลตราซาวด์แบบไม่ต้องผ่าตัด เพื่อตรวจวัดภาวะตับแข็ง สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคตับ โดยไม่จำเป็นต้องตัดชิ้นไปตรวจ ด้วยเทคนิคแบบอัตโนมัติของ Philips ElastQ Imaging (Auto ElastQ) นี้สามารถช่วยลดระยะเวลาในการตรวจ Liver Shear Wave Elastography ได้สูงสุดถึง 60%[3]
ภายในงานเปิดตัว Philips Elevate Release ได้รับเกียรติจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยาจากโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทย อาทิ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ธนพงศ์ พันธุ์พิกุล ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์นครินทร์ อินมุตโต ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, นายแพทย์ภูวิชญ์ เจริญเชื้อ ภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, และนายแพทย์ฐานิศวร์ ศักดิ์ศิรินุกูล แผนกรังสีวินิจฉัย โรงพยาบาลกรุงเทพ มาร่วมแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์ทางคลินิก
