เอาท์ซิสเต็มส์ขยายศักยภาพแพลตฟอร์ม Low-Code ประสิทธิภาพสูง ด้วยโซลูชันการพัฒนาแบบคลาวด์เนทีฟ

โซลูชันใหม่ที่ผสานรวมสถาปัตยกรรมคลาวด์ล้ำสมัย, CI/CD ขั้นสูง, การรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร และประสิทธิภาพที่เหนือชั้นสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันคลาวด์เนทีฟ รองรับผู้ใช้งานได้หลายสิบล้านคน

 เอาท์ซิสเต็มส์ (OutSystems) ผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันประสิทธิภาพสูง เปิดตัวโซลูชันใหม่สำหรับการพัฒนาแบบคลาวด์เนทีฟ “OutSystems Developer Cloud” (หรือ ODC) ที่งานประชุมด้านนวัตกรรมซอฟต์แวร์ NextStep 2022 โดย ODC (เดิมใช้โค้ดเนมว่า “Project Neo”) เป็นโซลูชัน Low-Code ประสิทธิภาพสูงสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันคลาวด์เนทีฟ  และ ODC ยังกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนาแบบ Low-Code โดยนำเสนอความสามารถระดับองค์กรที่จำเป็นสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจ

 ODC ผสานรวมสถาปัตยกรรมล้ำสมัยโดยใช้ Kubernetes, คอนเทนเนอร์ Linux, ไมโครเซอร์วิส และบริการคลาวด์เนทีฟของ AWS รวมไปถึง CI/CD ระดับ High Performer ตามมาตรฐานของ DORA, การรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร และประสิทธิภาพที่เหนือชั้นของการพัฒนาแบบ Visual ที่ใช้โมเดล ODC คือโซลูชันใหม่ล่าสุดบนแพลตฟอร์ม Low-Code ประสิทธิภาพสูงของเอาท์ซิสเต็มส์ นับเป็นระบบการพัฒนาที่ครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูง สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายที่สุดในด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ รวมถึงการสร้างซอฟต์แวร์ระดับ Mission-Critical  แพลตฟอร์มดังกล่าวประกอบด้วย OutSystems 11 (O11), OutSystems 11 Cloud (O11 Cloud) และ ODC  ซึ่งแพลตฟอร์มนี้จะช่วยให้ผู้บริหารไอทีและนักพัฒนาสามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านเทคโนโลยีและบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนา โดยมุ่งเน้นการสร้างแอปพลิเคชันที่แข็งแกร่ง การทำงานมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อผลักดันการเติบโตของธุรกิจ การขยายขอบเขต และความสามารถด้านการแข่งขัน

 แพลตฟอร์มการพัฒนาของเอาท์ซิสเต็มส์เป็นแพลตฟอร์ม Low-Code ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดจากองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่ง ODC จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการประสานงานร่วมกัน การทดสอบ และการดำเนินการของทีมงานไอทีสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันคลาวด์เนทีฟ ไม่ว่าจะเป็นโครงการระยะสั้นที่ต้องเร่งดำเนินการทันที หรือโครงการระยะยาวสำหรับการปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องขยายขีดความสามารถของแอปเพื่อรองรับผู้ใช้หลายร้อยล้านคน

 กอนซาโล ไกโอลัส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเอาท์ซิสเต็มส์ กล่าวว่า “ลูกค้าที่มีอยู่เดิมของเอาท์ซิสเต็มส์จะรู้สึกคุ้นเคยกับโซลูชัน OutSystems Developer Cloud  ส่วนผู้ที่เคยใช้งานแพลตฟอร์ม Low-Code แบบเก่า หรือใช้แนวทางการพัฒนาแบบเดิม ๆ มาโดยตลอด ก็จะรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับโซลูชันใหม่นี้  Kubernetes, คลาวด์เนทีฟ และไมโครเซอร์วิส เป็นเทคโนโลยีที่ลูกค้าพยายามจะจัดการควบคุม  โดยปกติแล้วจะต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี และใช้เงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อที่จะปรับใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชันทั่วไป ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเกิดขึ้นก่อนหน้าที่นักพัฒนาจะเริ่มต้นสร้างแอปพลิเคชันตัวแรกเสียด้วยซ้ำ  แต่ด้วยโซลูชัน ODC เราทำงานยุ่งยากทั้งหมดให้แก่ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และเริ่มต้นเขียนโปรแกรมได้ทันที”

 แนะนำ OutSystems Developer Cloud

แพทริค จูสเตน หุ้นส่วนผู้จัดการของ iQuality ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มลูกค้าที่เริ่มใช้งาน ODC เป็นรายแรก กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มใหม่ที่ผสานรวมประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมของ O11 เข้ากับสถาปัตยกรรมคลาวด์เนทีฟที่ก้าวล้ำของ ODC  เราทราบดีถึงอุปสรรคทางเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์เนทีฟ และเราเล็งเห็นว่าการที่เอาท์ซิสเต็มส์นำเสนอคุณประโยชน์ด้านประสิทธิภาพของแนวทางแบบ Low-Code ไปสู่คลาวด์เนทีฟจะเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ”

 ด้วยสถาปัตยกรรมใหม่ที่ทันสมัย ODC มอบคุณประโยชน์ที่หลากหลายสำหรับองค์กรที่ต้องการสร้างทุกสิ่ง ตั้งแต่พอร์ทัลที่รองรับการใช้งานของลูกค้า และแอปพลิเคชันธุรกิจสำหรับใช้งานภายในองค์กร ไปจนถึงระบบหลักของธุรกิจ

  • ประสบการณ์ระดับโลก – ODC ช่วยให้ลูกค้าสามารถสร้างสรรค์ประสบการณ์ระดับโลกที่สวยงามผ่านหลากหลายช่องทางได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพด้วย UI แบบ Pixel Perfect ที่สอดคล้องกับแบรนด์
  • สถาปัตยกรรมคลาวด์เนทีฟ – ODC รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก รวมไปถึงปริมาณธุรกรรมและความต้องการข้อมูลขนาดใหญ่ ด้วยสถาปัตยกรรมคลาวด์เนทีฟแบบใหม่ที่ล้ำสมัย
  • การรักษาความปลอดภัยระดับองค์กร – ODC ใช้แนวทาง Secure by Design เพื่อให้แอปพลิเคชันมีความปลอดภัยตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบไปจนถึงขั้นตอนการใช้งาน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา — ODC ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนาได้อย่างมาก โดยอาศัยการเขียนโปรแกรมแบบ Visual ขั้นสูง และการพัฒนาที่ยกระดับด้วย AI (AI Code Mentor)
  • DevOps ระดับ High-Performer – ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติที่ก้าวล้ำในทุกขั้นตอนของการพัฒนาซอฟต์แวร์ โซลูชัน ODC จะช่วยให้ลูกค้าบรรลุสถานะ High-Performer (ตามข้อกำหนดของ DORA) ในเรื่องของการทำ CI/CD

เอาท์ซิสเต็มส์เปิดตัวความก้าวหน้าด้าน AI ใหม่ ๆ ในแพลตฟอร์มของบริษัทฯ ที่งาน NextStep โดยนักพัฒนาสามารถทดลองใช้งาน OutSystems เวอร์ชั่นทดลองใช้งานฟรี และสัมผัสความสามารถเหล่านี้ได้โดยตรงด้วยการเยี่ยมชมเว็บเพจของเอาท์ซิสเต็มส์

รับชม (ย้อนหลัง) แพลตฟอร์มเอาท์ซิสเต็มส์ในงาน NextStep 2022

เอาท์ซิสเต็มส์นำเสนอ OutSystems Platform รุ่นปรับปรุงใหม่ที่งาน NextStep ทางออนไลน์ เมื่อระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่สนใจสามารถรับชมย้อนหลังการทำงานของแพลตฟอร์ม Low Code ประสิทธิภาพสูง ร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก ได้ที่กิจกรรมในรูปแบบของการถ่ายทอดสดหรือแบบออนดีมานด์

เกี่ยวกับเอาท์ซิสเต็มส์

เอาท์ซิสเต็มส์ (OutSystems) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2544 ด้วยพันธกิจในการเสริมสร้างขีดความสามารถให้แก่องค์กรต่าง ๆ สำหรับการสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน OutSystems ประกอบด้วยเครื่องมือประสิทธิภาพสูงที่เชื่อมต่อกันและขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างและติดตั้งใช้งานแอปพลิเคชันที่หลากหลายได้อย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนภายในองค์กร ด้วย Community member กว่า 435,000 ราย พนักงานมากกว่า 1,500 คน พันธมิตรกว่า 350 ราย และลูกค้าหลายพันรายใน 87 ประเทศ ใน 22 กลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจของเอาท์ซิสเต็มส์ครอบคลุมทั่วโลก และช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาแอปพลิเคชันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ ได้ที่ www.outsystems.com หรือติดตามเราบน Twitter @OutSystems หรือ LinkedIn ที่ https://www.linkedin.com/company/outsystems.

ที่มา: พีซี แอนด์ แอสโซซิเอทส์ คอนซัลติ้ง